28 มกราคม 2555

ที่พึ่งอันปลอดภัย


ทุกวันนี้พุทธศาสนิกชน พากันเดินทางห่างไปจากศาสนาพุทธไกลออกไปเรื่อยๆ

พวกเรานิยมความสะดวก หันไปพึ่งไสยศาสตร์สำเร็จรูปต่างๆ
ละทิ้งอุดมการณ์สำคัญที่พระพุทธเจ้าสอนเราว่า
เราต้องพึ่งตัวเราเอง
คนอื่นใครเล่าจะเป็นที่พึ่งได้
บุคคลผู้ฝึกตนดีแล้ว
ย่อมได้ที่พึ่งที่ได้แสนยาก
-- ธรรมบท, พระพุทธเจ้า

หลายคนถือเอาเดียรถีย์ที่อ้างว่าสามารถแก้กรรมได้ เป็นที่พึ่ง
ทั้งที่รู้อยู่ว่าเป็นแนวคิดนอกศาสนาพุทธ แต่ใจก็ศรัทธา
เพราะเป็นวิธีที่ง่ายกว่าการปฏิบัติตามอริยมรรค
ตนทำบาปเอง ตนก็เศร้าหมองเอง
ตนไม่ทำบาป ตนก็บริสุทธิ์เอง
ความบริสุทธิ์หรือไม่บริสุทธิ์เป็นของเฉพาะตน
คนอื่นจะให้คนอื่นบริสุทธิ์แทนไม่ได้
-- ธรรมบท, พระพุทธเจ้า

หลังจากที่หมดโอกาสได้เข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า ผ่านไปสองพันห้าร้อยกว่าปี
มาวันนี้บางคนถือปฏิมากรรมเกี่ยวกับพระองค์
อย่างพระพุทธรูป หรือพระพุทธบาท เป็นที่พึ่ง
บางคนถือเอาเทวรูปของฮินดูเป็นที่พึ่ง ซึ่งเท่ากับเปลี่ยนศาสนา
เพราะศาสนาพุทธไม่ใช่ศาสนาที่สำเร็จด้วยการร้องขอบนบานแบบฮินดู
แต่ด้วยการฝึกตนเอง โดยมีพระพุทธ พระธรรม พระอริยสงฆ์ เท่านั้น เป็นที่พึ่ง
"คนเป็นจำนวนมาก เมื่อภัยมาถึงตัว
พากันยึดเอาสิ่งต่าง ๆ เป็นที่พึ่ง
อาทิ ภูเขา ป่าไม้ สวน
ต้นไม้ และเจดีย์
นั่นมิใช่ที่พึ่งอันปลอดภัย
นั่นมิใช่ที่พึ่งอันสูงสุด
อาศัยที่พึ่งชนิดนั้น
ก็ไม่พ้นทุกข์ทั้งปวงได้
ผู้ถึงพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์เป็นที่พึ่ง
ย่อมเห็นอริยสัจด้วยปัญญาอันชอบ คือ
ทุกข์, เหตุของทุกข์, ความดับทุกข์ และ
อริยมรรคมีองค์แปด อันเป็นทางดับทุกข์
นั่นแลคือที่พึ่งอันปลอดภัย
นั่นคือที่พึ่งอันสูงสุด
คนเราอาศัยที่พึ่งชนิดนั้น
ย่อมพ้นจากทุกข์ทั้งปวง"
-- ธรรมบท, พระพุทธจ้า