5 พฤศจิกายน 2554

RIP ประเทศไทยอย่างที่เราเคยรู้จัก


กรุงเทพชั้นในจะท่วมก็ไม่ใช่เพราะน้ำแต่เพราะ "ผมเปียกคุณก็ต้องเปียกนะครับ" เพราะคนรังสิตส่วนหนึ่งเข้าใจว่าในกรุงเทพมีแต่ คน กรุงเทพ ไม่สนใจโรงพยาบาลขนาดใหญ่ทั้งหมด มหาวิทยาลัยขนาดใหญ่ทั้งหมด สถานที่ราชการทั้งหมด สำนักงานใหญ่ของกระทรวงทั้งหมด สำนักงานใหญ่ของธุรกิจทั้งหมด ชุมสายกลางของโทรศัพท์พื้นฐาน อินเทอร์เน็ตทุกยี่ห้อ และมือถือทุกยี่ห้อ

ความผิดพลาดคือ ทำไม ศปภ.ถึงอธิบายให้คนแถบรังสิตเข้าใจข้อมูลแค่ประโยคเดียวนี้ไม่ได้ ว่าถ้าน้ำท่วมนิคม (บางชันและลาดกระบัง) คนเป็นแสนจะตกงาน ถ้าน้ำท่วมกรุงเทพคนเป็นล้านจะตกงาน ความจริงนับแต่น้ำท่วมวันแรก ทุกคนในประเทศต้องร่วมกันปกป้องนิคมฯทั้งหมดและกรุงเทพเอาไว้ให้ได้ ไม่งั้นญาติพี่น้องเราเอง ไม่ว่าจะอยู่จังหวัดไหน ก็จะเดือดร้อนพร้อมกันหมด

แต่นับแต่วันแรกผมก็เห็นแต่ความคิดอยากให้กรุงเทพน้ำท่วมเพื่อจะได้ทำให้อยุธยาแห้ง ทั้งที่น้ำใช้เวลาอีกเดือนกว่าจะถึงกรุงเทพ จึงไม่ได้เกี่ยวกันเลย ควาดคิดว่าคนกรุงเทพต้องแบ่งความเดือดร้อนไปบ้าง ความคิดว่าคนกรุงเทพเห็นแก่ตัว ว่ารัฐบาลเข้าข้างคนกรุงเทพ ผมไม่เคยเห็นการทำความเข้าใจซึ่งเพียงต้องแยกระหว่าง "คนกรุงเทพ"  กับ "กรุงเทพ"  ออกจากกันให้ได้ แล้วบอกว่า "เราทุกคนต้องรักษากรุงเทพเอาไว้ให้ได้ ไม่ใช่เพื่อคนกรุงเทพ แต่เพื่อพวกเราทุกคนจะได้ทำมาหากินต่อไปหลังน้ำแห้งได้"  แต่หากน้ำท่วมกรุงเทพแล้ว กำลังซื้อทั้งหมดก็จะหายวับไปกับตาเป็นเวลาหลายเดือน

เชื่อว่าคนที่อยากให้กรุงเทพน้ำท่วม หลังจากผ่านวิกฤตินี้ไปแล้วต้องเผชิญกับสภาพเศรษฐกิจถดถอยอย่างหนัก ส่วนใหญ่ก็จะยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่ามันเกิดจากความคิดว่า "ผมเปียกคุณก็ต้องเปียก" ซึ่งมันใช้กับประเทศไม่ได้เพราะเหมือนพูดว่า "ถ้าเป็นแผลที่หน้าอก ก็ต้องเป็นแผลที่หัวใจด้วย"  แต่พวกเราที่เข้าใจจะทำใจกับสถานการณ์นี้อย่างไร ในเมื่อคนไทยไม่เอื้อเฟื้อต่อกันเหมือนที่เคยเข้าใจผิดตอนเด็กๆ เมื่อคนไทยถือคติ "ตาต่อตา ฟันต่อฟัน" และ "ถ้าผมฉิบหาย คุณก็ต้องฉิบหายเหมือนกัน" แต่ไม่ใช่ "ถ้าผมรุ่งเรือง คุณก็ต้องรุ่งเรืองเหมือนกัน" เพราะเมื่อประเทศเป็นเช่นนี้แล้ว เราทุกคนย่อมนึกภาพปลายทางได้ทันที

RIP ประเทศไทยอย่างที่เราเคยรู้จัก